สแตนเลสคืออะไร และทำไมเกรดถึงสำคัญ?
สแตนเลสเป็นโลหะผสมที่มีโครเมียม (Cr) เป็นองค์ประกอบหลักอย่างน้อย 10.5% และเหล็ก (Fe) มากกว่า 50% คุณสมบัติเด่นคือความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนสูง และมีโอกาสเกิดสนิมได้ยากกว่าโลหะชนิดอื่น สแตนเลสมีหลายเกรด โดยแต่ละเกรดจะมีสัดส่วนของโครเมียม นิกเกิล แมงกานีส และธาตุอื่นๆ ที่แตกต่างกัน ทำให้มีคุณสมบัติและการใช้งานที่เหมาะสมต่างกันไป
เกรดที่พบบ่อยและมักถูกนำมาเปรียบเทียบคือ สแตนเลส 304 และ สแตนเลส 201:
สแตนเลส 304: เป็นเกรดที่นิยมใช้มากที่สุด มีโครเมียมประมาณ 18% และนิกเกิล 9% มีความต้านทานการกัดกร่อนดี ทนความร้อน ขึ้นรูปง่าย เหมาะสำหรับอุปกรณ์ครัว เฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่ง
สแตนเลส 201: ถูกผลิตขึ้นเพื่อลดต้นทุนและทดแทนเกรด 304 มีปริมาณคาร์บอนมากกว่า 304 ทำให้เนื้อแข็งและเปราะกว่า เป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่า มีความทนทานต่อการกัดกร่อนของกรดและด่างปานกลาง และยังมีโอกาสเกิดสนิมได้
วิธีการตรวจสอบสแตนเลสแท้และเกรด
การทดสอบด้วยน้ำยาทดสอบ:
น้ำยาทดสอบธาตุแมงกานีส: หยดน้ำยาลงบนสแตนเลส
หากเปลี่ยนเป็น สีเหลือง แสดงว่าเป็นสแตนเลสเกรด 304
หากเปลี่ยนเป็น สีชมพูหรือแดง แสดงว่าเป็นสแตนเลสเกรดที่ต่ำกว่า (เช่น 201, 202)
น้ำยาทดสอบเหล่านี้มีจำหน่ายสำหรับผู้บริโภคทั่วไป
การทดสอบคอปเปอร์ซัลเฟต: ขจัดชั้นออกไซด์บนพื้นผิวเหล็ก เติมน้ำหนึ่งหยด แล้วเช็ดด้วยคอปเปอร์ซัลเฟต
หาก ไม่มีการเปลี่ยนสี น่าจะเป็นสแตนเลส
หากเปลี่ยนเป็น สีม่วงแดง อาจเป็นเหล็กกล้าแมงกานีสสูง
ข้อควรระวัง: บางโรงงานอาจใช้วิธีชุบผิวสแตนเลสเกรด 304 บนโลหะราคาถูก ซึ่งน้ำยาทดสอบอาจให้ผลเป็น 304 ที่ผิว แต่เนื้อในไม่ใช่
การทดสอบด้วยแม่เหล็ก:
สแตนเลสเกรด 304 โดยทั่วไป ไม่เป็นแม่เหล็กหรือมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กอ่อน หากแม่เหล็กดูดติดแน่น แสดงว่าไม่ใช่สแตนเลสเกรด 304 แท้
ข้อควรระวัง: การทดสอบด้วยแม่เหล็ก ไม่ใช่การทดสอบที่ถูกต้อง 100% เนื่องจากกระบวนการขึ้นรูปเย็นสามารถทำให้สแตนเลสซีรีส์ 300 (เช่น 304) เกิดคุณสมบัติแม่เหล็กได้ นอกจากนี้ สแตนเลสบางประเภท เช่น เฟอร์ริติก (Ferritic) อย่างเกรด 430 ก็มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กโดยธรรมชาติ
การทดสอบประกายไฟ:
ทำการเจียรสแตนเลสบนล้อเจียรและสังเกตประกายไฟ
หากประกายไฟปรากฏเป็นรูปทรงเพรียวบางและมีลวดลายคล้ายดอกไม้หนาแน่นมาก อาจบ่งบอกถึงปริมาณแมงกานีสที่สูงขึ้น (เช่น เหล็กแมงกานีสสูง)
การตรวจสอบด้วยตาเปล่า:
สแตนเลส 304 จะมีความเงางามและเรียบเนียนกว่า
สแตนเลส 201 มักมีสีเข้มกว่า ไม่มีมันเงา และสัมผัสหยาบกว่า
ลองล้างมือด้วยน้ำแล้วสัมผัสวัสดุ รอยนิ้วมือบน 304 จะลบได้ง่ายกว่า 201
การทดสอบด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง:
สเปกโตรมิเตอร์ (Spectrometer) หรือ สเปกโตรมิเตอร์เรืองแสง X-ray (X-ray Fluorescence Spectrometer): เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการตรวจสอบส่วนผสมทางเคมีของโลหะ ซึ่งจะบอกได้อย่างชัดเจนว่าสแตนเลสนั้นมีส่วนประกอบของอะไรบ้างและเป็นเกรดใด
การทดสอบด้วยสารเคมี (Chemical Exposure Test):
เป็นการนำสแตนเลสไปสัมผัสกับสารเคมี เช่น กรดซัลฟูริก หรือกรดไฮโดรคลอริก เพื่อทดสอบความทนทานต่อการกัดกร่อน วิธีนี้มักใช้ในห้องปฏิบัติการหรืออุตสาหกรรม